การเลือกซื้อแหวนเพชรแท้ แบบมีใบเซอร์ ดีกว่ายังไง?

มารู้จักกับใบเซอร์แต่ละประเภทกันก่อนตัดสินใจในการซื้อแหวนเพชรแท้ 

เพชรคืออะไร ? 

เพชร คือ ผลึกที่บริสุทธิ์ของคาร์บอน (Carbon) ซึ่งเป็นธาตุที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันมากที่สุดในเชิงเคมี เกิดขึ้นมาจากความร้อนหลายร้อยองศาและแรงกดดันสูงบีบอัดจนกลายเป็น ก้อนผลึก ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด เท่ากับ 10 ตามโมห์สเกล มากกว่า มรกต หรือทับทิม อีกทั้งยังมีความสวยงาม แวววาว ระยิบระยับ เพชรจึงมีความสำคัญและมีเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้จากอัญมณีอื่น ๆ เพชรมีหลายสี ตั้งแต่สีใสไม่มีสี เหลือง น้ำตาล เขียว ชมพู ส้ม ฟ้า จนถึงสีดำ สีหายากที่สุดคือสีแดง แต่เพชรที่ซื้อขายกันโดยทั่วไปจะมีตั้งแต่ไร้สีคือขาวบริสุทธิ์ สีติดเหลืองอ่อนไปจนถึงเหลืองแกมน้ำตาล โดยเพชรนิยมนำไปสร้างเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ เช่น สร้อยคอเพชร จี้เพชร กำไลเพชร สร้อยข้อมือเพชร ต่างหูเพชร แหวนเพชร สิ่งของแทนใจที่มีความหมายแทนคำมั่นสัญญา เช่น แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน ของคู่รัก และแสดงถึงความมั่งคั่งของผู้ครอบครองอีกด้วย 

เพื่อยืนยันว่าเป็นเพชรที่เราครอบครองนั้นเป็นเพชรแท้ไม่ใช่เพชรสังเคราะห์ที่ถูกสร้างขึ้นจากห้องทดลองของมนุษย์ มีขายตามท้องตลาดทั่วไป แต่มีราคาถูกกว่าเพชรแท้หลายเท่า ลักษณะภายในเหมือนเพชรธรรมชาติทุกประการ จึงไม่สามารถมองออกได้ด้วยตาเปล่า การจะพิสูจน์เพชรชนิดนี้จะต้องใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และความรู้ความชำนาญของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการวิเคราะห์เท่านั้น จึงต้องมีการรับรองคุณภาพเพชรจากสถาบันที่ได้รับความเชื่อมั่นสากลระดับโลกเพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจว่าเป็นเพชรแท้ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ 

ใบเซอร์เพชรคืออะไร ?  

ใบเซอร์ของเพชร คือ เอกสารรับรองคุณภาพของเพชร ที่ออกโดยสถาบันอัญมณีระดับสากล ซึ่งรายละเอียดของใบเซอร์ จะมีข้อมูลที่เกี่ยวกับเพชร เช่น แหล่งที่มา คุณภาพการเจียระไน สี น้ำหนัก ความสะอาดของเพชร ขนาด และรูปร่างของเพชร ซึ่งจะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถดูรายละเอียดได้ว่า เพชรเม็ดนั้นเป็นเพชรแท้หรือไม่ และควรตรวจสอบให้แน่นอนว่าเพชรที่ซื้อตรงกับใบเซอร์ ด้วยการสังเกตจากเลขเลเซอร์แกะสลัก หรือ ชั่งน้ำหนักเพชรว่าตรงกับที่ผู้ขาย แจ้งไว้หรือไม่เพื่อป้องกันการถูกหลอกขาย นอกจากนั้นการเลือกร้านเพชรที่มีหน้าร้านชัดเจน มีบริการหลังการขายก็จะเพิ่มความมั่นใจได้อีกทางนึง

ใบเซอร์มีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไร ? 

ใบเซอร์เพชรที่ได้รับความนิยมสากล มีทั้งหมด 3 สถาบันด้วยกัน ได้แก่ GIA, HRD และ IGI ซึ่งจะมีการรับรองที่แตกต่างกันไปดังนี้ 

1. ใบเซอร์เพชร GIA GIA ย่อมาจาก Gemological Institute of America เป็นสถาบันระดับสากลจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีสาขาต่าง ๆ ทั่วโลกจึงเป็นที่ยอมรับอย่างมาก และนอกจากนี้ยังเป็นสถาบันแห่งแรกของโลกทีกำหนดมาตราฐานของเพชรตามหลัก 4Cs คือ 
   
   
   1. กะรัต (Carat) เพชร 1 กะรัตจะมีน้ำหนัก 200 มิลลิกรัม ยิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งหายาก และราคาสูง
      
      
   2. สี (Color) คนไทยจะนิยม เรียกสีของเพชรว่า “น้ำ” โดยน้ำสูงสุดจะอยู่ที่ น้ำ 100 หรือก็คือ D Color โดยเกรดจะแบ่งเป็น D – Z ซึ่งเพชรธรรมชาติที่ขาวใสไร้สีปนเปื้อนจะเป็นเพชรเกรด D
      
      
   3. ความสะอาด (Clarity) การประเมินมลทิน หรือ ตำหนิ อาจจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแต่ก็มีความสำคัญ ยิ่งมีระดับความสะอาดที่สูงขึ้น ส่งผลให้เพชรมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วยนั้นเอง 
      
      
   4. การเจียระไน (Cut) เพชรธรรมชาติจะถูกเจียระไนให้ได้สัดส่วนที่ถูกต้อง ทั้งความลึก ความกว้าง รูปทรงหน้าเจียระไนหรือเหลี่ยมเพชร และความสมมาตร
      
      

      ดังนั้น เพชรที่ได้รับการรับรองจาก GIA จึงเป็นที่นิยม และได้รับความยอมรับมากที่สุดในตลาดอัญมณี มีความน่าเชื่อถือที่สูง ทั้งในการซื้อขายที่ง่ายและได้ราคาดีกว่าใบเซอร์จากสถาบันอื่นๆ

      สำหรับ ใบเซอร์ GIA มี 2 แบบ

      1. ใบเซอร์แบบย่อ หรือใบเซอร์เล็ก ใช้รับรองสำหรับเพชรขนาด 0.30 – 1 กะรัต
      2. ใบเซอร์แบบเต็ม หรือใบเซอร์ใหญ่ ใช้รับรองสำหรับเพชรที่มีขนาด 1 กะรัตขึ้นไป (จะมีบอกตำแหน่ง ตำหนิภายในเนื้อเพชรด้วยค่ะ)
         
         
2. ใบเซอร์เพชร HRD HRD หรือชื่อเต็ม คือ  HRD ANTWERP เป็นสถาบันอัญมณีที่มีชื่อเสียงจากประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าเพชรและศูนย์กลางการเจียระไน ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ประเทศเบลเยียมเพียงที่เดียวเท่านั้น ยังไม่มีการกระจายสาขาไปยังประเทศอื่น สำหรับ HRD จะเน้นเพชรที่มีขนาด 1 กะรัตขึ้นไปเท่านั้น 
   
   
3. ใบเซอร์เพชร IGI IGI ย่อมาจาก INTERNATIONAL GEMOLOGICAL INSTITUTE เป็นสถาบันที่มีสาขามากที่สุดในโลก มีทีมงานและห้องแล็บสำหรับตรวจสอบคุณภาพเพชรที่น่าเชื่อถือ และมีค่าบริการออกใบเซอร์ที่มีราคาถูกที่สุดจาก 3 สถาบัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกใบเซอร์เพื่อตรวจสอบดูคุณภาพ เพื่อดูเกรดของเพชรโดยคร่าว ๆ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมในเชิงธุรกิจการค้ามากนักถ้าเทียบกับใบเซอร์จาก GIA และ HRD เพราะจะมีความแม่นยำในการวัดคุณภาพที่มากกว่า IGI นั่นเอง 
   
   

ข้อดีของเพชรที่มีใบเซอร์

• เพื่อให้สบายใจและมั่นใจว่าได้เพชรแท้จากธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นเพชรสังเคราะห์ / เพชรห้องแล็ป (Lab Grown Diamond) หรือ Copy (Crystal, CZ, Moissanite)
• มั่นใจในคุณภาพเพชรตรงกับความจริง ครบทั้ง 4Cs ความสะอาด สี การเจียระไน น้ำหนัก
• สามารถนำไปจำนำ หรือ ขายต่อได้ง่ายกว่า เพราะหากไม่มีใบเซอร์รับรองก็จะทำให้ร้านเพชรรับซื้อยากขึ้น หรือราคาขายอาจตกลงมากถึง 50%
• เปรียบเทียบกับความคุ้มค่ากับเพชรเม็ดอื่น ๆ ได้ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเราไม่ได้โดนโก่งราคาจากผู้ขาย จ่ายแพงเกินควร 
  
  

จากข้อมูลความแตกต่างของใบเซอร์เพชรของสถาบันต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า ใบเซอร์เพชรนั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ในการเลือกซื้อ เนื่องจากได้รับการรับรอง ได้มาตราฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ซื้อ มากกว่าการซื้อเพชรแบบไม่มีใบเซอร์นั่นเอง ถึงแม้จะมีค่าใบเซอร์เพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าเราซื้อเพชรแท้ ดังนั้นในการเลือกซื้อเพชรทุกครั้งควรซื้อแบบที่มีใบเซอร์รับรองหรือร้านที่น่าเชื่อถือ 

GD Jewelry เป็นร้านเพชรให้บริการผลิตและออกแบบด้วยความสวยงาม ปราณีต ทันสมัย ตามใจสเปคของผู้ซื้อ อาทิ แหวนเพชรแท้ แหวนแต่งงาน แหวนหมั้น แหวนเพชร 1 กะรัต และเครื่องประดับเพชรแท้อื่น ๆ พร้อมทั้งมีใบเซอร์รับรองจาก GIA มีคุณภาพและได้มาตรฐานตรงตามความต้องการแน่นอน